称名寺
ショウミョウジ
称名寺
称名寺は、正保元年(1644年)円龍上人が亀田村(現市内亀田八幡宮辺り)に阿弥陀庵を建てたのが始まりといわれており、箱館開港当初はイギリスとフランスの領事館としても利用された古い寺院である。
明暦元年(1655年)阿弥陀堂と称したが、元禄3年(1690年)称名寺を公称し、宝永5年(1708年)亀田の衰退と箱館の繁栄により箱館の富岡町(現・弥生町弥生小学校辺り)に移転した。
明治12年(1879年)の大火で本堂を焼失し、同14年(1881年)この地に移転した。その後、幾度か大火のため建物を焼失したが、昭和4年(1929年)現在の鉄筋コンクリート寺院が完成した。
境内には、函館の語源と言われる「箱館」の館主・河野政通の供養碑をはじめ、高田屋嘉兵衛の顕彰碑、土方歳三と新撰組隊士の供養碑があるほか、北海道最古の石碑として有名な「貞治の碑」〔貞治6年(1367年)2月の銘がある板碑で北海道指定有形文化財〕が保存されている。
また、墓地には函館発展のもとを築いた高田屋一族、新島襄の海外渡航を助け日本最初の官立気象観測所を開設した福士成豊、日魯漁業株式会社創立者堤清六など、著名な人の墓や記念碑がある。
函館市
称名寺
据传称名寺始于正保元年(1644年),圆龙上人修建于龟田村(现市内龟田八幡宫一带)的阿弥陀庵。箱馆开港初始曾作为英国和法国的领事馆使用,是一座历史悠久的寺院。
明暦元年(1655年)时被称作阿弥陀堂,元禄3年(1690年)正式宣称为称名寺。宝永5年(1708年)伴随着龟田的衰退和箱馆的繁荣,而迁至富冈町(现・弥生町弥生小学一带)。
明治12年(1879年)的火灾正殿被烧毁,同14年(1690年)迁至此地。之后还曾遭多次火灾烧毁建筑,昭和4年(1929年)完成了现今的钢筋混凝土寺院。
里面不仅保存了函馆名称起源的“箱馆”馆主河野政通的供养碑,高田屋嘉兵卫的显彰碑,土方歳三与新撰组队士的供养碑,还有因北海道最古老而闻名的“贞治碑”〔贞治6年(1367年)2月的座右铭的木板碑,为北海道指定有形文化财产〕。
另外墓地中还有为函馆发展奠定基础的高田屋一族、协助新岛襄远渡海外并开设日本第一个官立气象观测所的福士成丰、日鲁渔业株式会社创立者堤清六等著名人士的墓地以及纪念碑。
函馆市
稱名寺
據傳稱名寺始於正保元年(1644年),圓龍上人修建於龜田村(現市内龜田八幡宮一帶)的阿彌陀庵。箱館開港初始曾作為英國和法國的領事館使用,是一座歷史悠久的寺院。
明暦元年(1655年)時被稱作阿彌陀堂,元禄3年(1690年)正式宣稱為稱名寺。寶永5年(1708年)伴隨著龜田的衰退和箱館的繁榮,而遷至富岡町(現・彌生町彌生小學一帶)。
明治12年(1879年)的火災正殿被燒毀,同14年(1690年)遷至此地。之後還曾遭多次火災燒毀建築,昭和4年(1929年)完成了現今的鋼筋混凝土寺院。
裡面不僅保存了函館名稱起源的「箱館」館主--河野政通的供養碑,高田屋嘉兵衛的顯彰碑,土方歳三與新撰組隊士的供養碑,還有因北海道最古老而聞名的「貞治碑」〔貞治6年(1367年)2月的座右銘的木板碑,為北海道指定有形文化財產〕。
另外墓地中還有為函館發展奠定基礎的高田屋一族、協助新島襄遠渡海外並開設日本第一個官立氣象觀測所的福士成豐、日魯漁業株式會社創立者堤清六等著名人士的墓地以及紀念碑。
函館市
วัดโชเมียวจิ
วัดโชเมียวจิ เป็นวัดเก่าแก่ กล่าวกันว่าเริ่มต้นจาก เอ็นริวโชนิน สร้างอาศรมอามิดะ ขึ้นที่หมู่บ้านคาเมะดะ (แถวศาลเจ้าคาเมะดะฮาจิมังในปัจจุบัน) ในปีโชโฮที่ 1 (ค.ศ. 1644) ตอนที่เปิดท่าเรือฮาโกดาเตะช่วงแรก ถูกใช้เป็นสถานกงสุลอังกฤษและฝรั่งเศส
ปีเมเรคิที่ 1 (ค.ศ.1655) เปลี่ยนชื่อเป็นวิหารอามิดะ แต่ปีเก็นโรคุที่ 3 (ค.ศ.1690) เปลี่ยนชื่อเป็นโชเมียวจิ ปีโฮเอที่ 5 (ค.ศ.1708) เมื่อคาเมดะเสื่อมถอยและฮาโกดาเตะรุ่งเรือง จึงย้ายมาที่ตำบลโทมิโอกะ อำเภอฮาโกดาเตะ (แถวโรงเรียนประถมยาโยอิ ในปัจจุบัน)
ปีเมจิที่ 12 (ค.ศ. 1879) โบสถ์ถูกเผาเสียหายจากไฟไหม้ครั้งใหญ่ในฮาโกดาเตะ จึงย้ายมาอยู่ที่นี่ในปีเมจิที่ 14 (ค.ศ.1881) หลังจากนั้น อาคารก็ถูกไฟไหม้อีกหลายครั้ง จนกระทั่งปีโชวะที่ 4 (ค.ศ.1929) วัดที่มีโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กจึงเสร็จสมบูรณ์
ภายในวัด มีอนุสาวรีย์รำลึกแด่โคโนะ มาซามิจิ ผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ "ฮาโกดาเตะ (คฤหาสน์รูปกล่อง)" ที่เป็นที่มาของชื่อฮาโกดาเตะ, มีศิลารำลึกของทาคาดะยะ คะเฮ, อนุสาวรีย์รำลึกแด่ฮิจิกาตะ โทชิโซ และเหล่านักรบชินเซ็นกุมิ นอกจากนี้ ยังมีอนุสาวรีย์รำลึกที่มีชื่อเสียงและเก่าที่สุดในฮอกไกโด คือ "อนุสรณ์ศิลาโจจิ" (แผ่นศิลาที่มีจารึกเดือนกุมภาพันธ์ ปีโจจิที่ 6 (ค.ศ.1367) และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของฮอกไกโด) ถูกเก็บรักษาไว้
นอกจากนี้ ที่สุสาน ยังมีหลุมฝังศพหรืออนุสาวรีย์รำลึกของ ครอบครัวทาคาดะยะ ที่ก่อร่างสร้างตัวได้จากการพัฒนาฮาโกดาเตะ, ฟุคุชิ นาริโทโยะ ที่เปิดสถานีอุตุนิยมวิทยาสาธารณะแห่งแรกของญี่ปุ่นและช่วยนีจิมะ โจให้เดินทางไปต่างประเทศ, ทสึทสึมิ เซโรคุ ผู้ก่อตั้งบริษัท Nichiro Gyogyo จำกัด ฯลฯ